วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

North Festival งานชา ที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนออัตลักษณ์และเอกลักษณ์


North  festival.. วันสุดท้าย
ปิดยอดขาย เกินคาด เปิดตลาดเล็ก ๆ เพียง  niche market
                “North  Festival”  งานชา ที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนออัตลักษณ์และเอกลักษณ์ รวมทรัพยยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าของภาคเหนือ  เปิดตลาดบองมาเช่  บอกเล่าเรื่องราวผ่านผลิตภัณฑ์ที่ได้รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือของชุมชนคนเหนือ  28 – 30 กันยายน
2561 ปิดยอดขายเกินคาดหมาย ชิมลางตลาด  42 บูธ เพียงเจาะกลุ่ม  niche market

                การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยกองตลาดภาคเหนือ  สานต่อภาครัฐนำนโยบายที่จะให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำ  เสริมสร้างแลยกระดับตลาดฐานรากให้มีความเข้มแข็ง  สร้างกิจกรรม  ชา...จากยอดดอยสู่เมือง  ที่ตลาดบองมาเช่ เขตจตุจักร  นำรายได้จากเมืองหลวงกระจายสู่ชุมชนโดยแท้จริง  ภายใต้คอนเซ็ปต์  “ชุมชนเติบใหญ่  เมืองไทยเติบโต”
                ไม่เห็นกับตา  อาจไม่กล้านำเสนอ  กิจกรรม  North  Festival  ชา...จากยอดดอยสู่เมือง  เพียง  3 วัน 28 – 30 กันยายน  2561 แวะเข้าชมเที่ยวตลาดบองมาเช่ในวันสุดท้าย  30 กันยายน เห็นชุมชนผู้ประกอบการและผู้ผลิตชา  จากภาคเหนือโดยตรงที่คุ้นเคยจากไร่นำมาออกจำหน่ายในงาน  เพียง  42 บูธ ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ขายโดยตรงถึงได้รู้ว่า  ขายดีจนต้องสั่งสินค้ามาเพิ่มจากเดิมที่นำมาสต็อกเพื่อขายใน  3 วัน
                ด้วยยอดขาย  2 – 3 หมื่น ต่อวัน ต่อร้าน  ทำให้เกิดยอดขายทะลุเกินเป้าหมายทั้งผู้ขาย  และผู้คิดจัดกิจกรรมในครั้ง
นี้ กับตัวเลขยอดขายวันสุดท้าย  (30 กันยายน 2561)  853,754  โดยยอดขายรวม  3 วัน  2,441,049 บาท
                และในวันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณสมฤดี  จิตรจง  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ (ณ วันที่ 30 กันยายน 2561) ผู้ดำริกิจกรรมสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน  ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า  “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโดยภูมิภาคภาคเหนือ  ได้มี
การจัดกิจกรรมที่อยากจะเผยแพร่  และประชาสัมพันธ์ ภาคเหนือไปในกลุ่มของรอบๆกรุงเทพฯ โดยจัดงานที่มีชื่อว่า  “ชา จากยอดดอยสู่เมือง”  โดยมี Concept ของการจัดงาน คือว่าเรามีการคัดชาหรือกาแฟ จากชุมชนต่าง ๆ หรือแม้กระทั่ง จากกลุ่มของคนรุ่นใหม่ ที่นำผลิตภัณฑ์ชาของชุมชน  มาผสมผสานรสชาติ ที่มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์อยู่ในภาคเหนือ  นำมาเสนอให้คนกรุงเทพฯในชานเมืองได้เห็นถึงความละเมียดละไมของสินค้า   ซึ่งไม่เป็นเพียงแต่ชาเท่านั้น   ยังมีเรื่องของงานฝีมือที่เป็นคนรุ่นใหม่  จากการนำผลิตภัณฑ์ของชุมชนเข้ามาเป็นงาน
ฝีมือ  โดยงานเย็บมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ  กระเป๋า   หรือหมวก  ตลอดจน เรามีชุมชนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความตั้งใจดี อยากจะช่วยในภาวะสับปะรด  ที่ปัจจุบันมีราคาตกต่ำ  นำมาเสนอเป็นพายสับปะรดที่มีรสชาติหอมอร่อยมาก เพียงวันแรก ก็ขายหมด ต้องสั่งของเพิ่มจากเชียงราย”
                สินค้าทั้งหมดที่นำมาจาก 17 จังหวัดทางภาคเหนือ นำมาออกร้าน ด้วยกันถึง 42 บูท เพียง 3 วันตั้งแต่วันที่ 28-30 กันยายน 2561 โดยจุดประสงค์หลักจริง ๆ  เพียงให้ทุกคนเห็น ภาพลักษณ์
ใหม่ ๆ ของทางภาคเหนือ  เห็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ของทางภาคเหนือ มี นวัตกรรม ในเรื่องของการผสมผสาน เรื่อง สินค้า กับการท่องเที่ยว   เพราะไม่ได้มีเพียงแต่สินค้า  OTOP  เท่านั้น  บางบูท จะมีเรื่องของการขายแพ็คเกจ ที่เป็นคู่รัก แล้วเดินทางไปท่องเที่ยว ถ่ายภาพเก๋ ๆ ในชุมชนซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมิติของการท่องเที่ยว
                คุณสมฤดี  จิตรจง  กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ปีนี้เป็นปีแรก ที่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม ในตลาดบองมาเช่   เราคิดว่าปีนี้เป็นแค่มาทดลองตลาดก่อน  แต่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก  เห็นได้จากการจัดกิจกรรมทั้ง 3 วันที่ผ่านมา มีรายได้มากกว่า 2 ล้าน  สำหรับในปีต่อไปคิดว่าจะนำข้อดี และข้อด้อย  จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นำไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น  ท้ายที่สุดนี้ เราถือว่าเป็นแนวคิดทางการตลาด ที่ทางภาคเหนือ ปรับรูปแบบทางการตลาด  จากเดิมที่จะเน้นไปในการออกบูธ ในศูนย์ประชุมใหญ่ ๆ ซึ่งหลัง ๆ พบว่าในบางครั้ง ด้วยระบบการจราจร  รวมไปถึงพื้นที่ของการจัดในศูนย์ประชุม ใหญ่ ๆ ทั้ง 3 แห่งของกรุงเทพฯ  มีกิจกรรมและการจัดงานทุกสัปดาห์อยู่แล้ว  ทำให้ไม่อาจจูงใจให้กับผู้คนที่เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก  จึงได้มีการปรับรูปแบบ ลักษณะตลาดกองโจร  ซึ่งนำ ทั้ง ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม
และผสมผสานในเรื่องของ แพ็คเกจตลาดท่องเที่ยว ออกนำเสนอในส่วนที่เป็นตลาด มุมเมือง ที่มีศักยภาพทางการซื้อสูง  ในขณะเดียวกัน เรายังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังเริ่มทะยอยทำ ไปตามอาคาร ออฟฟิศ ที่เป็นลักษณะ Complex  มีหลาย ๆ Office มีผู้คนหรือพนักงานจำนวนเยอะๆ เปรียบเสมือนเรานำสินค้ารวมถึงแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆไปนำเสนอลูกค้า ในออฟฟิศหรือใกล้บ้านที่สุด   สำหรับงานที่จัดที่บองมาเช่นี้  ผู้ประกอบการ หรือชุมชนต่างๆที่มาร่วมออกบูธในครั้งนี้ ก็ทำให้เกิดรายได้เกินเป้าหมายจากที่ได้เตรียมมาในวันแรก  สินค้าก็จำหน่ายได้ดีจนหมด  ถึงกับต้องสั่งเพิ่ม ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่าย ส่วนใหญ่เป็นงาน Handmade ซึ่งไม่สามารถผลิตได้จำนวนเยอะ ๆ  แม้กระทั่งขนมปังปิ้งจากชุมชน  ที่มาจากจังหวัดเชียงรายเป็น ขนมปังที่ได้รับ สูตร ทำจากเชฟ ฝีมือดีจากโรงแรมชื่อดังที่ผันตัวมาเป็นผู้ผลิตสินค้าชุมชน  เพื่อจำหน่ายสู่ตลาดภายนอก”   
                จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้  ความคาดหวัง เพียงแค่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ  ซึ่งอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะเป็นการเปิดฤดูการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ โดยเป็นที่รู้กันในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเริ่มฤดูกาลท่องเที่ยวทางภาคเหนือ จึงอยากจะเสนอประชาสัมพันธ์ ว่าแหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือยังมีเสน่ห์และมุมมองต่าง ๆ ที่น่าเที่ยว ผ่าน รูปแบบการจัดกิจกรรม ที่ตลาดบองมาเช่   แต่ผลตอบรับดีเกินคาด และได้รับการเรียกร้องจากผู้เข้าชมหรือผู้ซื้อ  ให้นำเสนอแพ็คเกจการท่องเที่ยวมาจำหน่ายร่วมกับงานแบบนี้ในครั้งต่อไป รวมถึงที่พักและกิจกรรมโฮมสเตย์ เพื่อจะได้ซื้อแพคเกจ และกลับไปในพื้นที่ทางภาคเหนือ
                ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ของการท่องเที่ยวภาคเหนือ  ที่คิดจัดกิจกรรมสำหรับผู้ที่หลงใหลชอบชา  และรักสุขภาพ  โดยเลือกกลุ่มเป้าหมาย  แหล่งจำหน่ายที่มีผู้ซื้อที่มีศักยภาพ  ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ชิมลางเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยว  แต่ผมขอเรียกว่าเป็นการทำตลาดแบบ  niche  market  โดยปริยายที่ประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง.


www.hellosarapa.com/web19           kadsarapapodrn pnussuwankere       095-5516345
www.hellosarapa.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น