วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

งานมิตรภาพวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น

“งานมิตรภาพวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น”

Kimono Festival Thailand 2020 & Muay Thai Art
                19 ธันวาคม 2562  เวลา 14.00 น. ณ ห้องออคิด โรงแรมรามาการ์เด้นท์ พล.ต.อ.วุฒิ  ลิปตพัลลภ อดีตฯรองผบ.ตร.ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมมิตรภาพไทย – ญี่ปุ่น(กิโมโน) เป็นประธานเปิดแถลงข่าว  “งานมิตรภาพวัฒนธรรมไทย – ญี่ปุ่น”  Kimono Festival Thailand 2020 & Muay Thai Art โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว คุณสมชาย พหุลรัตน์ เลขาธิการสมาคมมิตรภาพวัฒนธรรมไทย - ญี่ปุ่น (กิโมโน)  อ.ผุสดี  นาวาวิจิต  อดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่นฯ ในฐานะประธานฝ่ายต่างประเทศของมาดามฮิโรโก๊ะ มัสชึชีม่า ประธานสถาบันนิฮอนวาโสกากุเอน (Nihonwaso Kakuen)  คุณชัยรัตน์  ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯและที่ปรึกษา นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป ประธานชียงใหม่ซูอะควอเรียม อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ม.รังสิต)  อ.มณทิรา เดชจินดา (สถาบันบ้านนาฏศิลป์) และคุณธีธนา พหุลรัตน์ ประธานฯเยาวชนมิตรภาพ-วัฒนธรรมกีฬา  พร้อมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน
                คณะกรรมการ "สานสัมพันธ์มิตรภาพวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น" เตรียมต้อนรับทูตวัฒนธรรมสถาบันกิโมโนชื่อดังแห่งญี่ปุ่น (Nihonwaso KaKuen) เจ้าของรางวัลเฟรนด์ออฟไทยแลนด์คนแรกของไทยจาก ททท. นำทัพคณาจารย์วัฒนธรรม 100 คน จากทุกเมืองของญี่ปุ่น มาประเทศไทยเชื่อมสัมพันธ์มิตรภาพ-วัฒนธรรมไทย ๒ ชาติ ด้วยการแสดงวัฒนธรรมการแต่งกายในราชสำนักและการแต่งกายกิโมโน ในฤดูกาลต่าง ๆ และเทศกาลที่สำคัญ พร้อมกันนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาโอลิมปิค 2020
ที่โตเกียวในปีหน้า ปะทะศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทยโบราณทั้งชายและหญิง พร้อมการแสดงวัฒนธรรม ภาคของไทย เป็นงานยิ่งใหญ่แห่งปี 2020 ในช่วงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ร.ร.รามาการ์เด้นท์
                พล.ต.อ.วุฒิ  ลิปตพัลลภ อดีตฯรองผบ.ตร.ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมมิตรภาพไทย – ญี่ปุ่น(กิโมโน)  กล่าวว่า  “วัตถุประสงค์ ของการจัดงาน เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์กันมายาวนานทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนมิตรภาพวัฒนธรรม - กีฬา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ  ซึ่งปัจจุบันนั้นประเทศไทยมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับญี่ปุ่นมานานนับ 100 กว่าปี รวมทั้งการส่งเสริมกีฬาระหว่างสองประเทศ ดังเห็นจากมีนักกีฬาของไทยไปเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่ในญี่ปุ่น และนักกีฬาญี่ปุ่นก็มาเล่นกีฬาอาชีพอยู่ในประเทศไทย ในด้านความสัมพันธ์มิตรภาพวัฒนธรรมยิ่งสำคัญมาก เพราะประธานสถาบันฯมาดามฮิโรโก๊ะ ได้มีส่วนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมาเกือบ 50 ปี  ซึ่งเธอได้นำคณาจารย์มาท่องเที่ยวประเทศไทยทุกปีและยังให้ทุนนักศึกษาจากไทยไปเรียนการตัดเย็บกิโมโนที่ญี่ปุ่นในอดีตมาเป็นเวลานาน”
                นอกจากนั้น  สถาบันฯ แห่งนี้ ยังได้เคยนำคณาจารย์ของสถาบันฯมาแสดงการแต่งกายกิโมโนในประเทศไทย  ในโอกาสที่สำคัญในอดีตถึง 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถฯในรัชกาลที่ 9  ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60  พรรษา และครั้งที่ 2 ในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในรัชกาลที่ 9  ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา  และต่อมา มาดามฮิโรโก๊ะ ได้รับรางวัลเฟรนด์ออฟไทยแดนด์คนแรกของททท. ซึ่งนายกฯชวน หลีกภัย ในสมัยนั้น เป็นผู้มอบรางวัลและต่อมาเธอยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากรัฐบาลไทย และเธอยังเป็นทูต
วัฒนธรรมกิตติมศักดิ์ของญี่ปุ่น เป็นผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ไปเผยแพร่แสดงกิโมโนมาแล้วทั่วโลกทั้ง ในยุโรป - อเมริกา และงานเอ็กซโปร์เซียงไฮ้ที่จีนมาแล้ว  สำหรับในครั้งนี้ เธอนำคณาจารย์จากทุกเมืองของญี่ปุ่น 100 คน มาแสดงการแต่งกายกิโมโนในราชสำนัก  และการแต่งกายกิโมโนในเทศกาลต่าง ๆ พร้อมทั้งยังมีการแสดงเผยแพร่กิจกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวในปีหน้าด้วยและให้เปิดโอกาสให้นางแบบกิตมศักดิ์ และนักศึกษา-เยาวชนไทย จำนวน 15 คน ได้แต่งกายแบบกิโมโนโชว์บนเวทีของงานอีกด้วย

                สำหรับในส่วนของประเทศไทย การแสดงที่จะแลกเปลี่ยนกับทางญี่ปุ่น คือ การต่อสู้แบบศิลปะมวยไทย โดยนักมวยไทยชาย และนักมวยหญิงในแบบมวยไทยโบราณต่อสู้กันบนเวที การแสดงการต่อสู่ด้วยกระบี่กระบอง การแสดงวัฒนธรรม 4 ภาค 
การแสดงการแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย-ผ้าไหมไทยและไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ การแสดงวงดนตรีไทยเดิมในเพลงซูบารุ โดย พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ประธานฯจัดงานและศิลปินแซกโซโฟนมือ 1ของไทย คุณต้อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร ร่วมบรรเลงเพลงซูบารุ และการแสดงเยาวชนชุดมิตรภาพวัฒนธรรม-กีฬา-ท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นงานมิตรภาพวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ที่ยิ่งใหญ่แห่งปีเพราะงานนี้เขานำคณาจารย์มาพร้อมมิสกิโมใน 2019 ในงานกิโมโนเฟสติวัลครั้งที่ 48 ล่าสุดที่เกียวโตมาร่วมงานและรณรงค์เผยแพร่กีฬาโอลิมปิคที่ประเทศเขาเป็นเจ้าภาพในปีหน้าไปพร้อมกันด้วย.

www.hellosarapa.blogspot.com






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น