ดีอี
“เนรมิตอาคารแสดงประเทศไทย”
โชว์ศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัลสู่สายตาประชาคมโลก
ในงาน
World
Expo 2020 Dubai คาดมีผู้เข้าชมทะลุ 1.7
ล้านคน
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศความพร้อมเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการ “อาคารแสดงประเทศไทย” ภายในงาน World Expo 2020
Dubai ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2563 -10 เมษายน 2564 หวังประกาศศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัลของ ประเทศไทยให้ทั่วโลกรับรู้ พร้อมเนรมิตอาคารแสดงประเทศไทย
ภายใต้แนวคิด“Mobility for the
future การขับเคลื่อนสู่อนาคต” โดยเลือกพวงมาลัยเป็นสัญลักษณ์เพื่อสื่อถึงการต้อนรับที่จริงใจ
เผยไทยเข้าร่วมงานต่อเนื่องตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 หรือ
กว่า 140 ปี คาดมีผู้เข้าร่วมชมไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านคน มั่นใจส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศดันการท่องเที่ยว
การลงทุนและการส่งออกของไทยเติบโตสูงขึ้น
10
มกราคม 62 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(ดีอี) เปิดเผยว่า
พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามจำนวนมาก
อีกทั้งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าเที่ยวเมืองไทยสะดวกปลอดภัย
ขณะที่ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศและนโยบายอื่นๆ
ของรัฐบาลไทยกับสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ และประเทศสมาชิกอื่นที่เข้าร่วมงาน
นางสาวอัจฉรินทร์
พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่างานแสดงนิทรรศการ World
Expo 2020 Dubai ได้กำหนดหัวข้อหลัก
(Theme) คือ “CONNECTING
MINDS, CREATING THE FUTURE”หรือ"เชื่อมความคิด สร้างอนาคต”โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเหมือนสัญญาณที่จะส่งต่อให้ทุกคนร่วมใจกันพัฒนาโลก
ประกอบกับสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป รวมทั้งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภาคองค์กรและภูมิศาสตร์
เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนส่งเสริมการนำเสนอนวัตกรรม
โดยแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3
หัวข้อย่อย ได้แก่ 1.โอกาส (Opportunity) 2.การขับเคลื่อน (Mobility) และ3.ความยั่งยืน (Sustainability)
นอกจากนี้ World Expo 2020 Dubai ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจของโลก
จากนิทรรศการเพื่อสร้างความตระหนักและการเรียนรู้แก่กลุ่มประชากรในพื้นที่จัดงานและประเทศใกล้เคียง
เป็นนิทรรศการแห่งโอกาสทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างแบบไร้พรมแดนของประชาคมโลกผ่านกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและนโยบายไทยแลนด์
4.0
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาประเทศไทยได้เข้าร่วมงาน World Expo จากอดีตจนถึงปัจจุบันกว่า
30 ครั้ง เป็นระยะเวลากว่า 140 ปี
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่าประเทศไทยจัดสร้างอาคารแสดงประเทศไทยในพื้นที่โซน
Mobility บนพื้นที่กว่า 3,606
ตารางเมตร หรือ 2.25 ไร่ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด“Mobility for the
future” การขับเคลื่อนสู่อนาคต” เพื่อแสดงถึงวิถีการเชื่อมสัมพันธไมตรีในแบบชาวสยามเมืองยิ้มที่สร้างความประทับใจให้กับต่างชาติ
โดยเฉพาะเอกลักษณ์ของยิ้มสยามคือรอยยิ้มที่จริงใจทำให้ประเทศไทยแตกต่างและโดดเด่นจนกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงคนไทยกับคนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
(Connecting minds) และนี่เป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคต (Creating the Future)
ส่วนการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมจะใช้ “สีทอง”เป็นสีที่สื่อถึงแผ่นดินทองที่มีความอุดมสมบูรณ์และเปี่ยมไปด้วยอารยธรรมที่มีมาอย่างยาวนานเป็นองค์ประกอบของอาคารเครื่องยอดต่างๆ
แสดงออกถึงความสำคัญของอาคาร ดังนั้นผู้ออกแบบจึงนำสีทองมาเน้นเป็นจุดเด่นให้แก่ตัวอาคารแสดงประเทศไทย
ขณะที่“การไหว้”ในความหมายที่รู้จักกันไปทั่วโลกคือการสวัสดี ดังนั้นจึงสร้างอาคารแสดงประเทศไทยให้มีลักษณะเป็นซุ้มโค้งคล้ายคนประนมมือไหว้ถือเป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะของอาคาร
หมายถึงการยินดีต้อนรับสู่อาคารแสดงประเทศไทย
นอกจากนี้
ยังเลือกใช้“พวงมาลัย”เป็นสัญลักษณ์ประจำอาคารประเทศไทย เพื่อสื่อถึงการต้อนรับที่จริงใจ
และได้นำรายละเอียดของพวงมาลัยมาใช้ในงานตกแต่งผนังของอาคาร โดยมีรูปแบบการจัดวางองค์ประกอบล้อไปกับรูปแบบของการร้อยมาลัยที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสร้างเอกลักษณ์พิเศษให้กับอาคารแสดงประเทศไทยทางด้านกายภาพ
โดยที่พวงมาลัยนั้นได้ถูกดัดแปลงให้เข้ากับยุคดิจิทัลด้วยลายเส้นที่สานต่อกันเป็นรูปร่างของพวงมาลัย
เปรียบเสมือนการเชื่อมต่อของคนไทย วัฒนธรรม และ วิถีชีวิต โดยที่พวงมาลัยนี้
มีอุบะ 4 ช่อ เพื่อแสดงถึงไทยแลนด์ 4.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น