พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการมหกรรมการแสดงอุปรากรจีน และการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากากเสฉวน การสาธิต การแต่งหน้าและการแต่งกายงิ้ว และชมการสาธิต การเขียนหน้ากากงิ้ว โดยกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับสมาคมอุปรากรจีน และภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการแสดงงิ้วของไทยเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับศิลปินไทยกว่า ๒๐๐ ล้านบาท
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ส่งเสริมการ
แสดงพื้นบ้านและสนับสนุนศิลปินให้มีความมั่นคงทางรายได้และอาชีพ สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้สนับสนุนการแสดงพื้นบ้านทุกแขนง ได้แก่
ขับซอล้านนา โนรา ลิเก หมอลำ กลองล้านนา หนังตะลุง เพลงพื้นบ้านภาคกลาง และอุปรากรจีน (งิ้ว) เนื่องจากประสบปัญหาไม่มีการจ้างงาน ทำให้ขาดรายได้และขาดความมั่นคงในอาชีพ โดยขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมสืบทอดศิลปะการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน เพื่อพัฒนารูปแบบการแสดงให้เป็นนิยม และส่งเสริมให้ภาครัฐ ภาคเอกชนได้จัดเวทีการแสดงเพื่อสร้างรายได้ให้กับศิลปิน รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้ศิลปินพื้นบ้านได้มีเวทีในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะการแสดงให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการสืบทอดศิลปวัฒนธรรม อันจะนำไปสู่ความรัก ภาคภูมิใจและร่วมกันสืบสานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมไทยสืบไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า เนื่องในเทศกาลตรุษจีนในปี ๒๕๖๒ นี้ กระทรวงวัฒนธรรมจัดมหกรรมการแสดงอุปรากรจีน เพื่อฟื้นฟูศิลปะการแสดงให้ได้รับสนใจและความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยจัดแสดงงิ้วที่เป็นสิริมงคล อาทิ เปาบุ้นจิ้น งิ้วร้องไทย พูดไทย งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก และงิ้วเรื่อง รามเกียรติ์ เป็นต้น เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม – ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่ผ่านมาประเทศไทยมีคณะงิ้ว
กว่า ๑๐๐ คณะ ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง ๓๐ คณะ แต่มีเพียงแค่ ๑๐ คณะที่มีความพร้อมในการแสดง ซึ่งได้พัฒนารูปแบบการแสดง เทคนิคการนำเสนอ การแต่งกาย โดยปัจจุบันนักแสดงงิ้วเป็นศิลปินคนไทย และสามารถแสดงงิ้วเปลี่ยน หน้ากากได้ ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการว่าจ้างคณะนักแสดงงิ้วของไทยไปแสดงในประเทศต่างๆ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ สร้างรายได้กว่า ๒๐๐ ล้านบาท
สำหรับในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้จัดทำแผนการดำเนินงานการสนับสนุนการแสดงพื้นบ้านของไทย ๕ แนวทาง ประกอบด้วย ๑.ส่งเสริมสนับสนุนให้ศิลปินพื้นบ้านร่วมกันจัดตั้งเป็นสมาคมศิลปินพื้นบ้านแขนงต่างๆ ๒.อุดหนุนงบประมาณให้กับสมาคมศิลปินพื้นบ้านและสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดดำเนินการถ่ายทอดศิลปะการแสดงให้แก่เยาวชนในส่วนภูมิภาคต่างๆ ๓.จัดประชุมสมาคม ศิลปินพื้นบ้านร่วมกันปรับปรุงการดำเนินงานของสมาคมฯ ให้ประสิทธิภาพ ๔.ส่งเสริมให้ศิลปินพื้นบ้านได้ร่วมแสดงในงานเทศกาล งานประเพณีต่างๆของท้องถิ่น และ ๕.เผยแพร่แลกเปลี่ยนศิลปินพื้นบ้านอาเซียนและประเทศต่างๆ
www.hellosarapa.com/web19
www.hellosarapa.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น