วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สททเปิดเวทีแถลงความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไตรมาส ปี 2561
สำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในไตรมาสที่ ๓
25  กันยายน  2561  นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)  แถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)  และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคาดการณ์ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต  สำหรับการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในไตรมาสที่   ปี  2561  นี้ เป็นผลการสำรวจในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน และคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสที่  4/2561  ตลอดจนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี  2561 

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ไตรมาสที่  3/2561  เท่ากับ  96  อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนโดยปัจจัยกดดันจากนโยบายการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนทำให้การค้าโลกชะลอลง อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มอ่อนค่าตามการไหลกลับของเงินทุนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น  ประกอบกับความเชื่อมั่นสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจที่เกิดใหม่ลดลงจากปัจจัยวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศตุรกี  ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรประเทศอิหร่านส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกขาดแคลน รวมถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ ไตรมาสนี้ ส่วนไตรมาสที่  4/2561  คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ  103  เนื่องจากปัจจัยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวจากฤดูกาลท่องเที่ยว การ
ขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำและการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วขึ้น จึงคาดว่าในปี  2561 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน  37.19  ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.08  จากปี  2560  สร้างรายได้จำนวน  1.97  ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.16  จากปี 2560
โดยสรุปตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมุมมองของผู้ประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้น ด้วยปัจจัยที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและง่ายขึ้น รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมกับนโยบายประชาสัมพันธ์พื้นที่จากหน่วยงานภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่องแต่ยังคงต้องระวังผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน  สทท.จึงขอเสนอให้ภาครัฐควรมีมาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหาผลกระทบจากกรณีเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เร่งพัฒนาการคมนาคมขนส่งให้มีมาตรฐานเชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆ ให้ครอบคลุมโดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะ และส่งเสริมการพัฒนาความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่และการบูรณาการความร่วมมือระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ ในส่วนของผู้ประกอบการควร
พัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวในด้านต่างๆ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและชุมชน เคร่งครัดและรับผิดชอบต่อมาตรฐานความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง พัฒนาและปรับตัวเพื่อสร้างความเชื่อมโยงของธุรกิจตนเองให้สอดคล้องกับนโยบายที่ภาครัฐส่งเสริมในแต่ละพื้นที่ ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ โดยเฉพาะในด้านภาษา ความรู้ ทักษะ และทัศนคติในการให้บริการ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าและบริการได้อย่างมีคุณภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น